ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กรณีของ “เพจบิ๊กเกรียน” ได้เผยแพร่แชตที่กำลังเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นถึงการติดต่อระหว่างทนายชื่อดังและ “บอสพอล” ผ่านโทรศัพท์สำนักงานของตนเอง ก่อนที่จะร่วมรายการชื่อดัง ทนายพยายามขอเงิน 5 ล้านบาทจากบอสพอล แต่ถูกปฏิเสธไป ทำให้ทนายเปลี่ยนท่าที เดินหน้าร่วมกับกลุ่มคนอื่นๆ เดินทางไปยังหน่วยงานกองปราบฯ และทำการเรียกเงินเพิ่มเติมเป็น 7.5 ล้านบาท
เลื่อนลงไปที่ท้ายบทความเพื่อดูวิดีโอ!
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทนายคนดังได้รับการวิจารณ์อย่างหนักจากสังคม การที่ใส่เสื้อที่เขียนว่า “ทนายประชาชน” ทำให้เกิดคำถามถึงจริยธรรมและความโปร่งใสในอาชีพของทนายหลายคน ซึ่งในโซเชียลมีเดียก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และการคอมเมนต์อย่างดุเดือด
ชาวเน็ตหลายคนแสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่ารู้สึกผิดหวังกับกลุ่มทนายที่เคยให้ภาพลักษณ์ดีงาม แต่กลับปรากฏว่าพวกเขาหลงแสง หรือบางคนถึงกับวิจารณ์ว่ามรสุมชีวิตในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากกรรมที่ตามมาทัน คนทั่วไปยังได้แสดงความคิดเห็นถึงการกระทำที่ “คล้ายกับซีรีส์จีน” โดยมีทนายผู้ไม่คำนึงถึงจริยธรรมและการใช้ช่องว่างในการหาผลประโยชน์
ในขณะที่บางความคิดเห็นก็มองว่าทนายบางคนในกลุ่มที่ถูกแฉนี้น่าจะเป็น “ทนายสีเทา” และหลายคนถึงกับเสนอให้หัดคุยกับเงาของตัวเอง เพราะไม่มีใครอยู่ข้างเราได้นอกจากตัวเอง
ความดราม่าครั้งนี้ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นต่อวงการทนายเกิดความสั่นคลอน เนื่องจากผู้คนต่างห่วงใยและตั้งคำถามว่าทนายที่ไม่มีจริยธรรมเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อผู้ที่ต้องการความยุติธรรมอย่างไร