กรณี “ดิไอคอน” กลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากมีการเปิดเผยว่า ตำรวจได้เริ่มตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของบอสพอล ซึ่งพบข้อมูลบันทึกคลิปเสียงของบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักร้อง นักธุรกิจ และคนดังในหลายวงการ เหตุการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นที่ถกเถียงในสังคมออนไลน์อย่างหนัก เนื่องจากคลิปเสียงเหล่านี้อาจเปิดเผยถึงความลับหรือข้อมูลสำคัญบางอย่างที่อาจมีผลกระทบต่อหลายบุคคลและองค์กร
ล่าสุด พ.ต.อ. ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่ตนเองขึ้นเวทีในงานที่จัดโดยบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์และสอบสวนอย่างหนัก เขาได้กล่าวว่า การขึ้นเวทีนั้นมีจุดประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ร่วมงานและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางธุรกิจใด ๆ อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตได้ตั้งข้อสงสัยว่า การขึ้นเวทีในชุดตำรวจเต็มยศอาจถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนบริษัทที่กำลังเป็นประเด็น และมีผู้ตั้งคำถามว่าเขาได้รับค่าตอบแทนจากการเข้าร่วมงานหรือไม่
นอกจากนี้ ‘พัช กฤษอนงค์’ ผู้ที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ ได้ออกมาท้าทายให้ พ.ต.อ. ขึ้นเวทีโหนกระแสเพื่อให้คำชี้แจงอย่างละเอียด หลังจากที่เขาถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกร้องเงิน 10 ล้านบาทจากบุคคลบางกลุ่ม โดยพัชได้ยืนยันว่า การท้าทายดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้ พ.ต.อ. ได้ชี้แจงเพื่อความโปร่งใส และให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งกรณีนี้ยังคงเป็นที่สนใจและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์
นอกจากนี้ ชาวเน็ตหลายคนยังได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้อย่างดุเดือด หลายคนแสดงความเห็นว่า การขึ้นเวทีด้วยชุดตำรวจเป็นการการันตีความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทที่ถูกวิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยว่าควรมีการตรวจสอบว่าเขาได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ ขณะเดียวกันมีผู้ที่มองว่า การขึ้นเวทีครั้งนี้เป็นการใช้เครื่องแบบตำรวจในทางที่ไม่เหมาะสม และควรได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษามาตรฐานของอาชีพตำรวจ
ทั้งนี้ คดีของบอสพอลและบริษัทดังกล่าวได้กลายเป็นจุดสนใจของสังคม เนื่องจากมีข้อสงสัยมากมายที่อาจส่งผลต่อชื่อเสียงของหลายคน รวมถึงความน่าเชื่อถือของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในแวดวงการเมือง ธุรกิจ และการบันเทิง การตรวจสอบและเปิดเผยความจริงในเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่ประชาชนและสังคมให้ความสำคัญ
